Phrasal verbs 

   คือ การใช้คำกริยาที่ปกติมีความหมายอย่างหนึ่ง แต่ส่วนประกอบเมื่อ verb+preposition or particle มารวมกันเป็น Phrasal verbs ทำให้เกิดความหมายใหม่ ไม่มีเค้าความหมายของกริยาเดิม  อ่านต่อ

เมื่อไม่มี direct object 

เมื่อไม่มี direct object ต้องวาง adverb ไว้ติดกับverb เช่น

   - please come in.
   - Don't give up, whatever happens. อ่านต่อ

เมื่อมี object pronoun

เมื่อมี object pronoun เช่น him, her, it, them, me, us, เป็น direct object ต้องวาง object เหล่านี้ไว้หน้า adverb เช่น
   - I can't make it out. (ü)
   - I can't make out it. (û)  อ่านต่อ

เมื่อมี Noun

เมื่อมี noun เช่น book , pen , houses , etc. เป็นdirect object จะวาง noun ไว้หน้าหรือหลังadverb ก็ได้ เช่น
   - Turn on the light. (ü)

  - Turn the light on. (ü) อ่านต่อ

object เป็นคำยาว

ถ้า object เป็นคำยาว เช่นมี object clause ขยายต้องวางobject ไว้หลัง adverb เช่น
   - He gave away every book that he possessed. (ü)
   - He gave every book that he possessed away. (û)  อ่านต่อ

Three-Word Phrasal Verbs

   Three-Word Phrasal Verbs  คือ phrasal verb ที่ไม่มีกรรมและบางครั้งมีการใช้บุพบทมากกว่า 1 ตัว เช่น  Get on with (ทำต่อไป ไม่หยุด)  Cut down on (ลดปริมาณลง) อ่านต่อ

 

Separable verbs 

Separable verbs  คือ ที่แยกจากกันได้ มักจะต้องการกรรม  เช่น Turn on เปิด(ไฟ)   Turn off ปิด (ไฟ)  อ่านต่อ

Inseparable Verbs with objects 

   Inseparable Verbs with objects คือ phrasal verb ที่ต้องอยู่ติดกัน ไม่สามารถแยกจากกันได้ แต่ต้องมีกรรม 
เช่น  Look after (เลี้ยงดู)      Look into ( ตรวจถาม ตรวจสอบ ) อ่านต่อ

 Inseparable Verbs with no objects

   Inseparable Verbs with no objects  คือphrasal verb ที่ต้องติดกัน ไม่สามารถแยกจากกันได้ ไม่ต้องมีกรรม เช่น  set off ออกเดินทาง   Speed up เร่งความเร็ว อ่านต่อ